Search


แล้วคุณหล่ะ ???

» ความสุขอยู่หนใด...

  • Share this:


แล้วคุณหล่ะ ???

» ความสุขอยู่หนใด

หลายคนมุ่งมั่นทำงานหาเงินเพื่อที่จะทำเงินได้มาก ๆ โดยหวังว่า...วันหนึ่งได้เงินมามากพอแล้ว เงินเหล่านั้นจะทำให้เรามี ”ความสุข” ได้ ระหว่างการขวนขวายหาเงินนั้นอาจต้องละเลยสิ่งรอบตัวหลาย ๆ อย่าง เช่น...

- บางคนทำงานเป็นพนักงานประจำก็มุ่งมั่นขยันทำงานเข้างานเช้าออกจากออฟฟิศดึก ๆ ดื่น ๆ ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้าเพราะกลัวรถติดไปทำงานสาย...ไม่ได้โบนัส

- บางคนไม่เคยเห็นหน้าลูกเพราะเช้าออกจากบ้านลูกยังไม่ตื่น เลิกงานกลับมาถึงบ้านลูกก็หลับกันหมดแล้ว ชีวิตการงานก็เครียดเพราะจะทำงานพลาดไม่ได้ โอกาสก้าวหน้าจะเสียหาย...เลิกงานมาอาจหงุดหงิดกับคนในครอบครัวเพราะเครียดจากการทำงาน เป็นต้น

- บางคนมุ่งมั่นทำงานหรือทำกิจการส่วนตัวจนไม่มีเวลาดูแลตนเอง ไม่เคยมีเวลาออกกำลังกาย อาหารก็เร่งรีบทานเพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา มุ่งมั่นหาเงินจนสุขภาพร่างกายทรุดโทรม

วันหนึ่งเกิดป่วยขึ้นมา...กลับต้องเสียใจเพราะเงินที่หามาได้ต้องนำไปจ่ายให้กับแพทย์และโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ...ธุรกิจที่สร้างมาก็เสียหายเพราะขาดคนดูแล

- มีตัวอย่างพิธีกรรายการดังท่านหนึ่ง...ทำงานตัวเป็นเกลียว รับงานตลอดเวลา ไม่มีพักผ่อน ไม่มีเวลาดูแลตัวเองและครอบครัว เพราะคิดว่าหาเงินได้มากๆคนข้างหลังจะได้สบาย

แต่เวลาผ่านไปไม่กี่ปี...จากการที่ต้องทำงานอดหลับอดนอนและทานอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้เขาต้องเป็นโรคมะเร็งร้ายเสียชีวิตไปในวัยยังไม่ถึงห้าสิบปี

::::::::::::::::::


- บางคนเดินหน้าเข้าตลาดหุ้นเพื่อความร่ำรวย เห็นหลายคนรวยจากหุ้นเลยอยากรวยกับเขาบ้าง จำนวนมากใช้วิธีซื้อหุ้นตามเซียน

พอเห็นในเวปไซต์หรือวงในบอกว่าเซียนคนนั้นคนนี้กำลังซื้อหุ้นตัวนี้อยู่...ก็แห่ซื้อตาม

จนราคาหุ้นสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ คิดว่า...โอ้โห เซียนคนนี้เก่งจริง ๆ ซื้อหุ้นอะไรหุ้นนั้นก็ขึ้น เรียกว่าเป็นโคตรเซียนเลยทีเดียว

แต่พอเวลาผ่านไปสักพักปรากฏว่าราคาหุ้นตกลงกู่ไม่กลับ กำไรที่มีกลับกลายเป็นขาดทุน เพราะเหล่าเซียนต่างพากันเทขายเพราะราคาหุ้นถึงเป้าหมายที่วางไว้

หุ้นเล็ก ๆ หลายตัว...ถ้ารายย่อยไม่เข้าไปไล่ซื้อก็คงอีกนานกว่าราคาจะถึง”เป้าหมาย”ที่วางเอาไว้

หลายคนใช้เวปไซต์เป็นแหล่งปล่อยข่าว หลายรายใช้เป็นแหล่งเชียร์หุ้น ใครมาขวางข้าลบกระทู้ออกหมดพูดแต่ส่วนดีข้างเดียว รายย่อยก็อยากรวย...สุดท้ายเลยกลายเป็นเหยื่อของเซียนเหล่านั้น

หลายเซียนใช้คำว่า”วีไอ”เป็นจุดขายจนเสียชื่อกันไปทั้งบาง

สุดท้าย...มีคนมากล่าวว่าเป็น”วีไอทมิฬ”กันไปหมด
หลายคนมีเงินแต่ขาดการยอมรับเพราะถูกสังคมประนามสาปแช่งโดยเฉพาะรายย่อยที่เสียหายจากการ”เล่นหุ้นตามเซียน”

::::::::::::::::::


ดังนั้นเงินที่มีนั้น...จริง ๆ แล้วทำให้เรามี”ความสุข”ได้จริงหรือ

หรือมีสิ่งใดที่เงินไม่สามารถซื้อได้หรือไม่

หรือถ้าเงินไม่สามารถบ่งบอกถึงความสุขได้แล้วความสุขจริง ๆ นั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า ”ความสุขที่แท้จริงไม่ต้องใช้เงิน ความสุขที่ใช้เงินเป็นความสุขจอมปลอม ได้มาสักพักเดี๋ยวก็หายไป กลับไปทุกข์อีกเหมือนเดิม”

คำกล่าวนี้มีความจริงอยู่ไม่มากก็น้อย ผู้หญิงหลายคนอยากได้กระเป๋าถือดี ๆ ยี่ห้อดัง ๆ อุตส่าห์เก็บหอมรอบริบเพื่อจะได้ไปซื้อกระเป๋าใบละหลายหมื่นหรือหลายแสนบาทมาครอบครอง

ในช่วงแรกที่ซื้อใหม่ ๆ ก็อาจดีใจจนหยุดไม่อยู่ ยิ้มแก้มไม่หุบไปหลายวัน อาจเอากระเป๋าใบนั้นออกมาดูเช้าสายบ่ายเย็น

แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก บางคนอาจใช้เวลาสักสองสามเดือนก็เริ่มรู้สึกว่าเฉย ๆ กระเป๋าถือหรูใบนั้นก็ไม่ได้เป็นสิ่งพิเศษอีกต่อไป เป็นเรื่องธรรมดาใคร ๆ ก็ถือกัน ชีวิตก็กลับไปเริ่มมีความทุกข์ในเรื่องอื่น ๆ เหมือนเดิม

นอกเหนือจากกระเป๋าของผู้หญิงแล้ว... สิ่งอื่น ๆ ที่เราซื้อมานั้นก็อาจทำให้เราดีใจมีความสุขได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าใหม่ รถคันใหม่ บ้านหลังใหม่หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เราต้องใช้เงินซื้อหามา

ความสุขเหล่านั้นมองไปแล้วดูเหมือนจะทำให้เรามี”ความสุข”แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นแค่ความสุขเพียงชั่วคราวและเราก็กลับไปมีความทุกข์เช่นเดิมต่อไป

จะเห็นว่ากระเป๋าถือไม่ได้ทำให้เราเลิกโกรธ เกลียด กลัว เลิกวิตกกังวลหรืออิจฉาริษยาได้

ดังนั้น...ถ้าเงินไม่ได้ทำให้เรามี”ความสุขที่แท้จริง”แล้ว ....อะไรจะทำให้เรามีความสุขได้


::::::::::::::::::


มีการวิจัยจำนวนมากในปัจจุบันที่มุ่งเน้นถึงการค้นหาว่า...ความสุขของผู้คนจริง ๆ แล้วอยู่ที่ปัจจัยอะไรบ้าง

นักวิจัยเหล่านี้เรียกผลงานของพวกเขาว่าเป็น”เศรษฐศาตร์แห่งความสุข” (Happiness Economics)

พบว่า...มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ถ้าขาดหายไปจะทำให้”ความสุข”ของผู้คนลดลงมากกว่ามูลค่าของเงิน

ปัจจัยที่สำคัญสุด คือ `สุขภาพ´

ผู้คนมักไม่ค่อยคิดถึงสุขภาพมากนัก...เพราะปัจจุบันเรายังมีสุขภาพที่ดี ทำให้เรานึกไม่ออกว่าถ้าเราเกิดป่วยหรือสุขภาพไม่ดีขึ้นมาจะเป็นอย่างไร

หลายคนคิดว่าโรคร้ายคงไม่มีโอกาสเกิดขึ้นกับตนเองซึ่งเป็นการคิดเข้าข้างตนเองมากกว่าที่จะเป็นความจริง

นักเศรษฐศาตร์แห่งความสุขทำการวิจัยโดยให้ผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์ตอบแบบสอบถามว่า..

สมมุติให้คะแนนความสุขระดับหนึ่งถึงสิบ ถ้าเกิดสุขภาพไม่ดีขึ้นมา (ลดลงหนึ่งในห้าหรือ 20 เปอร์เซนต์) ความสุขจะลดลงไปเท่าไหร่ พบว่าผลเฉลี่ยของความสุขจะลดลงไป 6 จาก 10 เหลือความสุขแค่ 4 คะแนน

ขณะที่แบบสอบถามถามว่า...ถ้ารายได้ลดลงไปหนึ่งในสามหรือลดลง 33 เปอร์เซนต์ ความสุขจะลดลงไปเท่าไหร่ ผลจากการสำรวจพบว่าความสุขลดลงไป 2 ระดับยังเหลือความสุข 8 คะแนน

แสดงให้เห็นว่า...ถ้ามีการวัดความสำคัญของปัจจัยต่าง ๆ แล้ว `สุขภาพ´ สำคัญกว่า `เงิน´ สำหรับคนส่วนใหญ่...แต่เรามักมองไม่เห็นความสำคัญ


:::::::::::::::::


#ฝากทิ้งท้าย ตามสไตล์ Life 101 :

Q : แล้วพวกเรารู้ไหม... ทำอย่างไรจึงจะมี `สุขภาพดี´ ?

เชื่อว่าทุกคน...รู้

แต่...

รู้ แล้วไม่ทำ = ยังไม่รู้

ทำ แล้วยังไม่สำเร็จ = ยังไม่ได้ทำ


ขอ `สุขภาพ´ ดี...จงสถิตย์กับทุกท่าน

:::::::::::::::::::


Credit : บทความ Value Way ฉบับวันที่ 21 ม.ค. , 4 ก.พ. 2556
โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ


Tags:

About author
เริ่มต้นสร้างธุรกิจของคุณ จากสิ่งที่รัก ด้วยเทคโนโลยีที่มีและเรียนรู้ง่าย การขายของใน amazon การสร้างลูกค้าใน eBay หรือการสร้างสินค้าของคุณเอง ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นกันครับ
#DNTMb - LifeStyle Blogger Through Ecommerce
View all posts